CDN ย่อมาจาก Content Delivery Network (คอนเทนต์ เดลิเวอรี่ เน็ตเวิร์ค)
เป็นการนำ Server มาทำงานรวมกันโดยอาศัยประโยชน์จาก Server ที่วางไว้ใน Location ต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลก ใช้ในการกระจาย Content ผ่าน Internet ให้รวดเร็วเร็วยิ่งขึ้นโดยข้อมูลที่ส่งผ่าน Internet ด้วย CDN จะได้แก่ HTML (ที้ใช้แสดงบน Website), ไฟล์ Java, รูปภาพ และวิดีโอ
*** Website ตัวอย่างที่ใช้งาน CDN เช่น Facebook,Netflix ครับ
การทำงานของ CDN
CDN เซิร์ฟเวอร์จะทำการเก็บ cache เนื้อหาต่าง ๆ ของเว็บเราเอาไว้ตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เมื่อผู้ใช้แต่ละคนเข้าเว็บของเรา ทุก ๆ request ไม่ว่าจะเป็น HTML,CSS,รูปภาพหรือวีดีโอ จะถูกคำนวณเพื่อหา CDN ที่ดีที่สุดในการจัดส่งคอนเทนต์นั้น ๆ ตามพื้นที่ที่ผู้ใช้อยู่ ถ้ามีเนื้อหาที่ CDN ที่ใกล้ที่สุดยังไม่มีอยู่ใน cache ก็จะไปดึงมาจาก CDN ตัวอื่น ๆ เอามาเก็บไว้ เมื่อถูกเรียกใช้ครั้งต่อไปก็จะสามารถส่งกลับไปหาผู้ใช้ได้ทันที (โหลดเนื้อหาได้เร็วขึ้น) แต่ถ้าไม่มี CDN ไหนมีเลยหรือว่า cache ที่เก็บไว้หมดอายุไปแล้ว CDN ที่ผู้ใช้ติดต่ออยู่ก็จะทำตัวเป็น proxy ไปขอข้อมูลมาใหม่จากเซิร์ฟเวอร์จริง ๆ ของเว็บไว้ใช้ต่อไปในอนาคต
อ้างอิงรูปภาพจาก Website CDN77 ครับ
ที่อยู่ของ CDN
CDN เป็นเครือข่ายของเซิร์ฟเวอร์ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้อยู่ใกล้ผู้ใช้งานในแต่ละพื้นที่ครับ
โดยการเลือกพื้นที่ติดตั้งนั้นผู้ให้บริการ CDN จะเลือกติดตั้งใกล้กันกับ Internet Exchange Point (IxP) ที่เป็นจุดเชื่อมต่อกันของ Internet service provider (ISP) หรือก็คือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตต่างๆ เช่น (3BB, TOT, True,ฯลฯ) ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่เร็วที่สุดสำหรับส่งคอนเทนต์ไปยังผู้ใช้งานของ ISP แต่ละราย ด้วยการเลือกเชื่อมต่อเข้ากับ IxP แบบนี้ ผู้ให้บริการ CDN ก็จะกระจายเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้บริการผู้ใช้ทั่วทุกมุมโลกได้ครับ
ประโยชน์ของ CDN
1 โหลดเนื้อหาได้เร็วขึ้น
2 ลดการใช้ bandwidth
3 content พร้อมใช้งานตลอดเวลา
4 เสริมความปลอดภัย
( CDN สามารถช่วยป้องกันการโจมตีแบบ DDoS ได้เพราะ traffic จะถูกกระจายไปตาม CDN ไม่ได้ไปที่เซิร์ฟเวอร์จริงทั้งหมด)
Leave a Reply